Black Ribbon Top Right
ม.ทักษิณ จับมือ สอวช. เปิดตัว ดัชนีนวัตกรรมสังคม ยกระดับบทบาทอุดมศึกษาสู่ผลกระทบเชิงสังคมที่ยั่งยืน

ม.ทักษิณ จับมือ สอวช. เปิดตัว ดัชนีนวัตกรรมสังคม ยกระดับบทบาทอุดมศึกษาสู่ผลกระทบเชิงสังคมที่ยั่งยืน

17 ธ.ค. 68 133

มหาวิทยาลัยทักษิณ ร่วมกับ สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) จัดเสวนา “From Local Research to National Impact: ขับเคลื่อนนวัตกรรมสังคมด้วยมหาวิทยาลัยและดัชนีเชิงพื้นที่” พร้อมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อพัฒนาและขับเคลื่อนการใช้ ดัชนีนวัตกรรมทางสังคม (Social Innovation Index) สำหรับสถาบันอุดมศึกษาไทย มุ่งสร้างกรอบการวัดผลกระทบเชิงพื้นที่อย่างเป็นระบบ ต่อยอดการใช้องค์ความรู้ งานวิจัย นวัตกรรมสังคม ยกระดับบทบาทสถาบันอุดมศึกษาไทยสู่ผลกระทบเชิงสังคมที่ยั่งยืน

ในปัจจุบันประเทศไทยมีพัฒนาการทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงเผชิญความเหลื่อมล้ำและข้อจำกัดเชิงโครงสร้างที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน สถาบันอุดมศึกษาในฐานะแหล่งองค์ความรู้ แหล่งผลิตกำลังคน และเป็นพื้นที่แห่งนวัตกรรม จึงมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงองค์ความรู้กับพื้นที่และชุมชน  ดังนั้น  “นวัตกรรมทางสังคม” จึงกลายเป็นกลไกสำคัญในการรับมือกับปัญหาสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทและกลุ่มประชากรเปราะบาง  อย่างไรก็ตามการขับเคลื่อนนวัตกรรมทางสังคมที่ผ่านมายังขาดกรอบการวัดและประเมินผลที่เป็นระบบ ชัดเจน และเปรียบเทียบได้ จึงนำไปสู่ความจำเป็นในการพัฒนา “ดัชนีนวัตกรรมทางสังคม” ที่เหมาะสมกับบริบทของสถาบันอุดมศึกษาไทย

เมื่อวันพุธที่ 17 ธันวาคม 2568 มหาวิทยาลัยทักษิณ และ สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.)  จึงร่วมกันจัดงานเสวนาวิชาการและพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ภายใต้หัวข้อ “From Local Research to National Impact: ขับเคลื่อนนวัตกรรมสังคมด้วยมหาวิทยาลัยและดัชนีเชิงพื้นที่” เพื่อผลักดันการพัฒนาดัชนีนวัตกรรมทางสังคมที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในเชิงนโยบายและการบริหารจัดการของมหาวิทยาลัยไทยในอนาคต ณ ห้อง Diamond Dome 2 โรงแรม Queensland Hotel Bangkok กรุงเทพมหานคร

พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือมีวัตถุประสงค์สำคัญในการพัฒนาและขับเคลื่อนการนำดัชนีนวัตกรรมทางสังคมไปใช้ประโยชน์ ผ่านการดำเนินงานนำร่องในสถาบันอุดมศึกษาต้นแบบ เพื่อประเมินความเหมาะสมของตัวชี้วัด การเก็บข้อมูล และระบบการให้คะแนน รวมถึงการปรับปรุงแนวทางการใช้ดัชนีให้สอดคล้องกับบริบทของสถาบันอุดมศึกษาไทย อันจะนำไปสู่การยกระดับบทบาทของมหาวิทยาลัยในการสร้างผลกระทบเชิงสังคมอย่างยั่งยืนโดยมี ดร.สุชาต อุดมโสภกิจ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สอวช. และ รองศาสตราจารย์ ดร.ณฐพงศ์ จิตรนิรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยทักษิณ ลงนามร่วมกัน

รองศาสตราจารย์ ดร.ณฐพงศ์ จิตรนิรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยทักษิณ กล่าวว่า “นวัตกรรมสังคม” คือการสร้างสรรค์การพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงทั้งในเชิงมิติทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง วิถีชีวิต วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม ด้วยความรู้ วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ซึ่งการพัฒนา Thailand Social Innovation Index จะเป็นเครื่องมือร่วมกันที่ช่วยให้มหาวิทยาลัยสามารถแปลงองค์ความรู้ไปสู่ผลลัพธ์เชิงพื้นที่อย่างเป็นระบบ และก่อให้เกิดคุณูปการสำคัญอย่างน้อย 4 ประการ ได้แก่ (1) การเชื่อมโยงองค์ความรู้กับการปฏิบัติการระดับพื้นที่ และสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านเชิงนโยบายบนฐานข้อมูล (2) การทำให้งานวิจัยมีเป้าหมายชัดเจน วัดผลได้ และยกระดับการสื่อสารสาธารณะด้วยเรื่องเล่าของพื้นที่ เชื่อมโยงมิติ Local สู่ Global อย่างเหมาะสม (3) การสร้างสนามความร่วมมือแบบเท่าเทียมระหว่างมหาวิทยาลัย ภาคีเครือข่าย และชุมชน เพื่อร่วมกันส่งมอบคุณค่าและทำให้มหาวิทยาลัยเป็นสถาบันที่สังคมพึ่งพาได้ และ (4) การขับเคลื่อนนวัตกรรมสังคมที่ไม่ใช่การแข่งขันเพื่ออันดับ แต่เป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือแนวราบ เพื่อเสริม เติมเต็มศักยภาพ และสานพลังการพัฒนาสังคมร่วมกัน

ภายในงานยังจัดเวทีเสวนา “อนาคตนวัตกรรมสังคมไทย: บทบาทของมหาวิทยาลัยในศตวรรษแห่งการพัฒนาเชิงพื้นที่” เปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนมุมมองระหว่างนักนโยบาย นักวิชาการ และผู้ขับเคลื่อนงานเชิงพื้นที่ โดยมี ดร.ชัยธร ลิมาภรณ์วณิชย์ ผู้อำนวยการฝ่ายยุทธศาสตร์นวัตกรรม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ รองศาสตราจารย์ ดร.สมัคร แก้วสุกแสง รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยทักษิณ รองศาสตราจารย์ ดร.อุเทน คำน่าน รองผู้อำนวยการหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ และ ดร.สุชาต อุดมโสภกิจ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สอวช. ร่วมแลกเปลี่ยนสร้างแนวทางให้สถาบันอุดมศึกษาไทยเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสรรค์-รังสรรค์การเปลี่ยนแปลง เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศในหลากหลายมิติ ชี้ให้เห็นว่าข้อมูลชุมชน งานวิจัย และดัชนี จะช่วยออกแบบทางออกที่แม่นยำ ลดความเหลื่อมล้ำ และยกระดับเศรษฐกิจฐานรากอย่างเป็นรูปธรรมได้อย่างไร

การลงนามความร่วมมือครั้งนี้จึงนับเป็น จังหวะสำคัญของการสร้างกรอบการวัดผลนวัตกรรมทางสังคมที่สอดคล้องกับบริบทของมหาวิทยาลัยไทย และเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันบทบาทของสถาบันอุดมศึกษาไทยสู่การสร้างผลกระทบเชิงสังคมอย่างยั่งยืนในระยะยาว

------------------------------------------------------------

ข่าว/ภาพ : งานสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยทักษิณ